เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์ :

09.00 - 18.00 น.

เราช่วยคุณได้

@ edw4634c

Travel License : 11/07416

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

15 ที่เที่ยวนครพนม เมืองเล็กแต่สุดฟิน

15 ที่เที่ยวนครพนม เมืองเล็กแต่สุดฟิน

20

Apr

15 ที่เที่ยวนครพนม เมืองเล็กแต่สุดฟิน

ม่วนหลายเด้อ! สำหรับจังหวัดนครพนม เมืองเล็กริมฝั่งโขง ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและมวลความสุข สำหรับใครที่กำลังมองหา ทัวร์นครพนม ที่เที่ยวนครพนมแบบพักกายสบายใจ อยากไปชมเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย มีวัฒนธรรมที่หลากหลายให้ได้เรียนรู้ มีบรรยากาศธรรมชาติแบบริมฝั่งโขงให้ได้เดินทอดน่องชิลๆ  มีร้านกาแฟแบบอินดี้ๆ ให้ได้เช็คอินด์กันจุใจ บอกเลยว่านครพนมคือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ ส่วนสายมูเตลู สายเที่ยวไทยให้ถึงธรรม ชอบชมความงดงามตระการตาของสถาปัตยกรรมต่างๆ นครพนมก็ยืนหนึ่ง เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สนใจหลายแห่ง ทั้งวัดวาอาราม พระธาตุประจำวันเกิด เรียกได้ว่าสำหรับสายมูแล้วมานครพนมที่เดียวอิ่มบุญจุใจกันแน่นอน ส่วนจะมีที่ไหนให้ได้ตามไปฟินกันบ้างนั้น ตามไปลุยกันเลยจ้า 

พระธาตุพนม ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร

อันดับหนึ่งในใจสำหรับคนมาเยือนนครพนมก็ต้องมากราบนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เรียกว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์สำคัญประจำภาคอีสานเลยก็ว่าได้  พระธาตุพนมนั้น  ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร พระอารามหลวง ในอำเภอธาตุพนม  เป็นพระธาตุเก่าแก่ที่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมจิตใตทั้งของพี่น้องชาวไทยอีสานและชาวลาว เพราะเชื่อกันว่า ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุหรือกระดูกส่วนอกขององค์พระพุทธเจ้าเอาไว้  สำหรับนักเดินทางสายมู พระธาตุพนมนั้น เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของปีวอกและผู้ที่เกิดวันอาทิตย์   และว่ากันว่าถ้าใครได้มากราบนมัสการองค์พระธาตุครบ 7 ครั้งขึ้นไป จะได้เป็นลูกพระธาตุ ชีวิตจะพบเจอแต่ความร่ำรวย รุ่งเรือง เห็นไม๊ล่ะว่า นี่คือจุดเช็คอินด์ที่ต้องมาพลาดไม่ได้จริงๆ 

พระธาตุเรณูนคร

รณูนคร ชื่อนี้ต้องคุ้นหูมากๆ สำหรับคนอยากมาเที่ยงนครพนม เมืองเล็ก น่ารัก ที่อบอวลไปด้วยความสุขและความเรียบง่าย พระธาตุเรณูนคร ก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่สายมู สายชิล และสายเช็คอินน์ไม่ควรพลาด เพราะมีองค์พระธาตุสีชมพูงดงามโดดเด่นประดิษฐานอยู่ภายในวัดพระธาตุเรณู  ซึ่งพระธาตุเรณูนครนั้นว่ากันว่าเป็นพระธาตุประจำวันของคนเกิดวันจันทร์  และเชื่อกันว่าภายในได้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธรูปสำคัญ และแก้วแหวนเงินทองอีกมากมาย และพิเศษสุดๆ คือ สำหรับสาวสายมู พลาดไม่ได้เลย ณ จุดนี้ เพราะเชื่อกันว่าใครได้มากราบไหว้จะมีรูปร่างหน้าตาสวยงามผิวพรรณผ่องใส ไงล่ะ ต้องมาแล้วสิเนาะ 

พระธาตุท่าอุเทน

มานครพนมทั้งทีต้องได้ฟีลไหว้พระธาตุริมฝั่งโขง ซึ่งนี่เลยจ้า พระธาตุท่าอุเทน พระธาตุองค์เล็กที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมที่ทางกรมศิลปากรได้ทำการบูรณะใหม่ให้มีความแข็งแรง ตัวองค์พระธาตุเป็นสีขาวสะอาดตา ตั้งอยู่ริมฝั่งโขง ด้านในองค์พระธาตุมีการบรรจุพระธาตุของพระอรหันต์ ซึ่งอัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่าจุดนี้เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินด์ที่มานครพนมแล้วไม่ควรพลาด เพราะเชื่อกันว่าหากใครได้มากรายไหว้นมัสการแล้วจะมีชีวิตที่สดใส รุ่งเรืองเหมือนแสงอาทิตย์ที่สาดส่อง โดยเฉพาะคนเกิดวันศุกร์ยิ่งพลาดไม่ได้ เพราะพระธาตุท่าอุเทนเป็นพระธาตุประจำวันของคนที่เกิดในวันศุกร์นั่นเอง

พระธาตุนคร

อีกหนึ่งพระธาตุที่เชื่อว่ามานครพนมแล้ว ทุกคนต้องได้แวะมานมัสการ นั่นก็คือพระธาตุพนทซึ่งประดิษฐานโดดเด่นอยู่ในวัดมหาธาตุ บริเวณถนนริมโขงในตัวเมืองนครพนม ใครอยากมาไหว้พระแบบไม่ต้องยุ่งยากคิดมากกับการเดินทาง มากราบนมัสการพระธาตุนครถือว่าสะดวกมาก เพราะเดินทางง่ายตั้งอยู่ในตัวเมือง ภายในองค์พระธาตุมีการบรรจุพระอรหันตสารีริกธาตุ และองค์พระพุทธรูปทองคำ ในด้านความเชื่อ เชื่อกันว่าพระธาตุนครนั้น เสริมดวงในเรื่องวาสนาบารมี ใครอยากมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน อยากเป็นเจ้าคนนายคน ทำงานไหนก็ปัง ประสบความสำเร็จแบบไม่มีอะไรมากั้น ต้องมากราบไหว้นมัสการพระธาตุนครกันนะ

พระมหาธาตุเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม

สถานที่ท่องเที่ยวจุดเช็คอินด์น้องใหม่ที่บอกเลยว่าไฉไลขั้นสุด สะดุดตาสะดุดใจสำหรับสายฟินและสายมูแน่นอน เพราะพระมหาธาตุเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม เป็นพระมหาธาตุเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของนครพนม องค์พระธาตุมีความสวยงามโดดเด่นด้วยรูปร่างลักษณะที่คล้ายกับการจำลองเอาวัดภูเขาทองจากกรุงเทพมหานครไปตั้งไว้ที่นครพนม  พระหาธาตุองค์นี้สูงโดยรวม 56 เมตร ภายในแบ่งออกได้เป็น 6 ชั้น ซึ่งประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และอัฐิธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ พระเกจิชื่อดังแห่งภาคอีสาน นอกจานี้ภายในยังมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดเก็บเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาให้ได้เยี่ยมชม ส่วนใครที่รักการวิปัสสนา ที่นี่มีห้องวิปัสสนาขนาดใหญ่และมีกิจกรรมทางพุทธศาสนาที่จัดอยู่บ่อยๆด้วยล่ะ 

จุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3

ออกจากวัดต่างๆ ไปเที่ยวชมวิวทิวทัศน์กันบ้าง มานครพนมจุดชมวิวเช็คดอินด์ที่ฟินสุดและขาดไม่ได้ก็คือ ก็คือสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 ซึ่งเป็นสะพานเชื่อมไทยและลาวแห่งที่ 3 ของเมืองไทย หากขับรถข้ามสะพานไปเราก็จะเจอกับเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน ประเทศลาว ความน่าสนใจของสะพานแห่งนี้ อยู่ที่ความสวยงามของสะพานที่ทอดยาว ถ้าเราถ่ายรูปจากมุมสวยๆบนสะพานจะเห็นด้านหลังเป็นเทือกเขาน้อยใหญ่ ข้างใต้เป็นแม่น้ำโขง บนสะพานก็ประดับประดาด้วยเสาไฟที่สวยงามเรียงราย ดูโอ่อ่ามากๆ ความสำคัญของสะพานแห่งนี้นอกจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้วยังเป็นย่านการค้า ประตูการค้าที่สำคัญของ ไทย ลาว เวียดนาม และจีนอีกด้วย ใครมาเที่ยวนครพนมแล้วพักแถวๆนี้ ต้องไม่พลาดมาเที่ยวชม บอกเลยว่าช่วงเช้าแสงดี ถ่ายรูปสวยมว๊ากกกกก 

กูบาเฮาส์ แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของนครพนม

บ้านกูบา อาคารสองชั้นสไตล์เฟรนช์โคโลเนียล สร้างโดยคหบดีผู้รับเหมาก่อสร้างชาวเวียดนามชื่อ โองกูบา หรือนายสุนทร วิจิตรเจริญ ปัจจุบันที่นี่ได้ปรับปรุงให้เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของนครพนม รวมถึงมีร้านขายสินค้าที่ระลึก และพื้นที่นั่งจิบชา ทานอาหารเช้า อยู่ชั้นล่างของบ้านด้วยร้านขายของฝากกูบาเฮ้าส์นครพนมเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 18.00 น. ที่ตั้ง : ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม

วัดนักบุญอันนา

มาถึงอีกจุดวิวพ้อยต์ที่พลาดไม่ได้ เมื่อมาเยือนนครพนมเด้อค่าเด้อ นั่นก็คือวัดนักบุญอันนา ฟังจากชื่อก็รู้เลยใช่ไหมล่ะว่านี่คือวัดคริสต์ หรือโบสถ์คริสต์นั่นเอง โบสถ์คริสต์แห่งนี้สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.2469  ถือว่าเป็นโบสถ์ที่มีความเก่าแก่และสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองนครพนม และสวยลำดับต้นๆของเมืองไทยเราเลย จุดเช็คอินด์ของวัดนักบุญอันนา อยู่ที่หอคอยคู่สูงสง่าด้านบนของโบสถ์ส่วนหน้า ใครแวะมาเที่ยวก็จะมองเห็นจุดนี้มาตั้งแต่ไกล  นอกจากนั้น ภายในโบสถ์ก็มีจุดสวยๆ มีมุมเด็ดๆ ให้เลือกถ่ายรูปไปอัพเดทโปรไฟล์กันมากมาย ใครเป็นนักท่องเที่ยวสายช่างกล้อง ใครอยากมาลองกล้องฟิล์มเก๋ๆ บอกเลยว่าจุดนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแห่งที่ควรต้องมา 

อนุสรณ์สถานโฮจิมินห์

นครพนมเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์และความเกี่ยวพันเชื่อมโยงของคนไทย และเวียดนาม เพราะครั้งหนึ่งนั้นท่านประธานาธิบดีโฮจิมินห์ของเวียดนามเคยมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ในช่วงระยะหนึ่ง ก่อนจะกลับไปทำภารกิจกู้ชาติที่บ้านเกิดเมืองนอน ดังนั้น ที่นี่จึงมีการอนุรักษ์บ้านเรือนในบริเวณเดิมที่ลุงโฮเคยอาศัยอยู่เอาไว้ให้ผู้ที่สนใจได้เข้าไปเยี่ยมชมกัน ณ จุดนี้มีทั้งอนุสรณ์สถานของประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ที่ตั้งไว้ไม่ไกลจากตัวบ้าน ตัวบ้านที่เปิดให้เยี่ยมชมก็เป็นอาคารสถาปัตยกรรมสวยงามแบบเวียดนาม ด้านในมีการจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์เกี่ยวกับนครพนมกับเวียดนามไว้ให้ศึกษา พิเศษสุดๆ ก็คือ ณ จุดนี้มีชุดอ๋าวหญ่าย ชุดประจำชาติของสาวเวียดนามไว้ให้สาวๆ ได้ใส่ถ่ายรูปด้วยนะ เรียกว่ามาแล้วก็ต้องจัดหนัก จัดเต็มเก็บภาพให้ครบกันล่ะทุกคน  

พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่า

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่เหล่านักเดินทางสายฟินไม่ควรพลาด คือการได้เช็คอินด์ฟินกับการถ่ายรูปสวยงาม แลดูวินเทจโดดเด่นกับอาคารสไตล์โคโลเนียลสีเหลืองสดใสสะดุดตาที่พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่า  ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมและแสดงเรื่องราวสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองนครพนม โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ที่สำคัญ เมื่อครั้ง จวนผู้ว่าถูกใช้เป็นสถานที่ประทับเมื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จมาทอดพระเนตรประเพณีไหลเรือไฟในเมืองนครพนมแห่งนี้  

หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ นครพนม

เอาใจสายอาร์ตกันต่อ สำหรับคนรักสถาปัตยกรรมงามๆ มานครพนมบอกเลยไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะนอกจากอาคารโคโรเรียลของพิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าแล้ว อีกหนึ่งอาคารสวยงามใจกลางเมืองนครพนมก็คือ อาคารหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ  ซึ่งความเก่าแก่ของตัวอาคารก็มีอายุอานามแค่ราวร้อยกว่าปี ภายในใช้เป็นที่เก็บรวบรวมเอกสารและหนังสือหายากของภูมิภาคแถบนี้  ใครมาเที่ยวนครพนม วันว่างๆที่เดินเล่นชิลๆ ในเมือง ต้องไม่พลาดแวะมาถ่ายรูปเช็คอินด์จุดนี้ด้วยนะ 

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจืดนครพนม

แวะมาตื่นตาตื่นใจไปกับพันธุ์ปลาน้ำจืดหลายหลากมากมายที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจืดนครพนมกันดีกว่า ที่แห่งนี้ เป็นสถานที่จัดแสดงสัตว์น้ำต่าง ๆ มากมาย มีตู้ปลาขนาดใหญ่ที่แสดงพันธุ์ปลาแม่น้ำโขงทั้งแบบทั่วไปและชนิดที่หายากใกล้สูญพันธุ์ มีอุโมงค์ลอดใต้ตู้ปลาที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้คนรักโลกใต้น้ำ ได้ชื่นชมการเคลื่อนไหวของปลาเหมือนว่าเรากำลังยืนอยู่ใต้น้ำ จุดนี้บอกเลยว่า ถ้าคุณพาเด็กๆมาด้วย เด็กๆจะฟินมาก ได้ทั้งเรียนรู้เรื่องปลา และได้ความสนุกสนานตื่นตาตื่นใจสุดๆ  ใครสนใจอยากาชมก็ต้องดูเวลาจัดแสดงให้ดีนะ เพราะที่นี่มีเวลาเปิด ปิด และมีค่าเข้าชมบำรุงสถานที่ ซึ่งราคาน่ารักมาก ผู้ใหญ่แค่ 30 บาท เด็กน้อยก็แค่ 20 เรียกว่าคุ้มมากจริงๆ ทั้งนี้ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจืดนครพนม ตั้งอยู่ที่ ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม 

เกร็ดความรู้

เปิดบริการทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00 – 17.00 น. และ เสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00 – 18.00 น. นะจ้ะ 

ลานพญาศรีสัตตนาคราช

มาเที่ยวนครพนมก็ต้องได้ฟินกับการเดินเล่นเลียบริมฝั่งโขง และนี่คือแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของนครพนม ที่ตั้งอยู่ถนนริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณหน้าสำนักงานป่าไม้ ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม  แลนด์มาร์คแห่งนี้จัดสร้างเป็นเป็นองค์พญานาคทองเหลือง หรือ พญาศรีสัตตนาคราชที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน  มี 7 เศียร ลำตัวเดียว เชื่อกันว่าใครได้มากราบไหว้บูชาก็จะมีโชคดี เงินทองหลั่งไหล ทำอะไรก็สำเร็จ นอกจากนั้นแลนด์มาร์คแห่งนี้ยังเป็นจุดรวมพลที่บรรยากาศดีมากๆ ยามเย็นมานั่งเล่น เดินเล่นได้ชมวิวริมฝั่งโขงอีกด้วย 

หาดทรายทองศรีโคตรบูร

หาดทรายทองศรีโคตรบูร เป็นหาดทรายริมน้ำโขงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในช่วงฤดูแล้ง เป็นช่วงเวลาที่แม่น้ำโขงลดระดับจนเกิดเป็นเนินทรายกลางลำน้ำโขงทอดยาวหลายกิโลเมตร  ทำให้การมาเที่ยวชมริมฝั่งโขงในช่วงนั้นมีจุดชมวิวที่สุดแสนพิเศษ ซึ่งถ้าใครอยากจะมาเที่ยวชม เดินเล่นบนริมฝั่งโขงที่เนินหาดทรายทองศรีโคตรบูร ก็ต้องมาเที่ยงในช่วงเวลาประมาณเดือนกุมภาพันธ์ – พฤษภาคม เหมาะบอกเลยว่าเป็นช่วงเวลาที่อากาศกำลังดี เหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อน ชมความงามของธรรมชาติมากๆ 

Blue Gold Coffee นครพนม

เอาใจคอกาแฟกันหน่อย ใครรักการชิมกาแฟ พลาดไม่ได้กับการไปเที่ยวชมไร่กาแฟสุดฮอตของนครพนม  นั่นก็คือไร่กาแฟชะมดบูลโกลด์ อำเภอโพนสวรรค์ ไร่กาแฟที่ทำรายได้หลายร้อยล้านบาทต่อปีด้วยเมนูซิกเนอเจอร์ คือกาแฟขี้ชะมดร้อน  ที่ Blue Gold Coffee แห่งนี้ เป็นร้านกาแฟที่ตกแต่งสวยงาม มีความโดดเด่นด้วยการเป็นไร่กาแฟที่ถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบครบวงจร มีทั้งที่เที่ยวที่กินและที่พักไว้คอยให้บริการ ใครที่หลงรักกาแฟ ชื่นชอบบรรยากาศธรรมชาติแบบฟาร์มเมอร์ บอกเลยว่าจุดนี้คือฟินแน่นอน 

จำนวนผู้เข้าชม 491 ครั้ง